วิธีสร้างบอททำเงินแบบไม่ต้องทำอะไรบน Polymarket ตั้งแต่เริ่มต้น

บทความนี้มาจาก:Archive

รวบรวมและเรียบเรียงโดย｜Odaily (@OdailyChina)；ผู้แปล｜Azuma (@azuma_eth)

Polymarket เป็นแพลตฟอร์มตลาดพยากรณ์ที่ร้อนแรงที่สุดในปัจจุบัน ผู้คนใช้เงินจริงเดิมพันผลลัพธ์ของเหตุการณ์ในโลกจริงบนแพลตฟอร์มนี้ เช่น การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ การแข่งขันกีฬา ราคาสินทรัพย์ การเปลี่ยนแปลงนโยบาย เป็นต้น

Polymarket ทำงานบนเครือข่าย Polygon ใช้ USDC ในการชำระเงิน การซื้อขายมีความโปร่งใส รวดเร็ว และมีค่าธรรมเนียมเกือบเป็นศูนย์

บน Polymarket ยังมีบอทบางตัวที่สามารถค้นหาข้อผิดพลาดของผู้ซื้อขายได้เร็วกว่าคนอื่น และใช้ประโยชน์จากข้อผิดพลาดเหล่านั้นซ้ำๆ เพื่อสร้างกำไรมหาศาลจากการดำเนินการนับพันครั้ง

เหตุผลที่บอททำงานได้ดีมากบน Polymarket คือ:

• API เปิด, สมุดคำสั่งซื้อขายโปร่งใส — บอทสามารถเห็นทุกอย่างได้
• ค่าธรรมเนียมต่ำมาก, ชำระเงินทันที — การเก็งกำไรจากส่วนต่างราคาเล็กน้อยสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ผู้ใช้ที่เป็นมนุษย์หลายล้านคนกำลังซื้อขายด้วยตนเอง และหลายคนทำผิดพลาดบ่อยครั้ง

นี่ไม่ใช่บทความโฆษณาสำหรับบอท นี่คือการวิเคราะห์ตั้งแต่บอทที่โง่ที่สุดไปจนถึงสัตว์ประหลาด AI ที่สามารถสร้างรายได้จริงๆ

1. บอทระดับเริ่มต้น

บอทขุดแอร์ดรอป: บอทปั๊มปริมาณการซื้อขาย

ตลาดคาดการณ์ว่าการมีปฏิสัมพันธ์กับ Polymarket จะได้รับรางวัลแอร์ดรอปที่อุดมสมบูรณ์ บอทประเภทนี้ซื้อและขายตำแหน่งเดียวกันทันที ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพียงเพื่อเพิ่มปริมาณการซื้อขาย — ไม่มีความตั้งใจจริง เพียงแค่ปั๊มปริมาณ

วิธีการดำเนินการก็ง่าย — เลือกตลาดที่มีสภาพคล่องดี เช่น ซื้อตำแหน่ง "YES" ในราคา 10 ดอลลาร์ แล้วขายทันทีในราคา 10 ดอลลาร์ ปริมาณการซื้อขายก็จะเพิ่มขึ้น

ข้อดี:

• ไม่มี

ข้อเสีย:

• ไม่มีใครรู้เกณฑ์ที่แน่นอนของแอร์ดรอป
• แพลตฟอร์มอาจไม่นับรวมการซื้อขายประเภทนี้
• แอร์ดรอปอาจไม่มีอยู่จริง คุณอาจกำลังทำงานฟรี

บอทจับความผันผวน: จับช่วงเวลาตื่นตระหนกโดยเฉพาะ

บอทประเภทนี้จะมองหาความผันผวนของราคาที่รุนแรง และเดิมพันสวนกลับว่าตลาดจะกลับสู่ค่าเฉลี่ย — ราคาจะกลับสู่ปกติในที่สุด

บอทจะตรวจสอบประวัติราคาอย่างต่อเนื่อง คำนวณระดับความเบี่ยงเบนของราคาปัจจุบันจากค่าเฉลี่ยล่าสุด เมื่อราคาพุ่งสูงขึ้นหรือร่วงลงอย่างรุนแรง บอทจะเปิดตำแหน่งสวนกลับอย่างรวดเร็ว โดยเดิมพันว่าตลาดตอบสนองเกินจริง

ข้อดี:

• สามารถดำเนินการด้วยเงินทุนจำนวนเล็กน้อย
• ตรรกะเรียบง่ายและเข้าใจง่าย
• ทำกำไรจากอารมณ์และข้อผิดพลาดของผู้ใช้ที่เป็นมนุษย์

ข้อเสีย:

• ไม่ใช่ทุกความผันผวนจะเป็นเท็จ บางครั้งข่าวใหญ่จริงๆ ก็สามารถทำให้ตลาดเปลี่ยนแปลงได้
• หากตั้งจุดตัดขาดทุนหรือเป้าหมายผิดพลาด ค่าธรรมเนียมเพียงอย่างเดียวก็สามารถทำให้คุณขาดทุนได้
• ต้องจัดการความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด มิฉะนั้นจะค่อยๆ สูญเสียเงิน

2. บอทระดับกลาง

บอททำตลาด: ผู้เก็บเกี่ยวส่วนต่างราคา

บอทประเภทนี้จะทำกำไรโดยการวางคำสั่งซื้อและขายแบบจำกัดราคาทั้งสองทิศทางอย่างต่อเนื่อง

บอทจะวางคำสั่งซื้อที่ต่ำกว่าราคาปัจจุบันเล็กน้อย และวางคำสั่งขายที่สูงกว่าราคาปัจจุบันเล็กน้อย เมื่อทั้งสองฝั่งดำเนินการสำเร็จ ก็จะได้กำไรจากส่วนต่างราคา นอกจากนี้ Polymarket ยังให้รางวัลสำหรับการให้สภาพคล่อง ซึ่งหมายถึงรายได้สองทาง

ข้อดี:

• แหล่งรายได้สองทาง: ส่วนต่างราคา + รางวัลจากแพลตฟอร์ม
• ในตลาดที่สงบ มีความผันผวนต่ำ รายได้สามารถมีความเสถียรอย่างน่าประหลาด
• มีประสิทธิภาพหากเลือกตลาดที่เหมาะสม

ข้อเสีย:

• ต้องมีเงินทุนอย่างน้อย 10,000 ดอลลาร์ขึ้นไป ส่วนต่างราคาจึงจะมีความหมาย
• กลัวความผันผวนกะทันหันของตลาดมาก: หากคำสั่งซื้อของคุณดำเนินการสำเร็จก่อนที่ราคาจะร่วงลงอย่างรวดเร็ว ผลลัพธ์คือคุณจะติดอยู่ที่ราคาสูง
• ตลาดที่แย่เพียงแห่งเดียวสามารถทำลายรายได้ของคุณทั้งสัปดาห์ได้

3. บอทระดับสูง

บอทเก็งกำไร

เมื่อผลรวมของราคาผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้อง (เช่น "YES" และ "NO" พื้นฐานที่สุด) ต่ำกว่า 100% ก็จะมีโอกาสในการเก็งกำไร

การทดสอบที่ซับซ้อนมากขึ้นคือการเก็งกำไรระหว่างตลาดที่เกี่ยวข้องกัน (การแสดงออกที่แตกต่างกันของเหตุการณ์เดียวกัน, ช่วงเวลา, เงื่อนไขประกอบ, เป็นต้น) ตราบใดที่สร้างตำแหน่งได้อย่างถูกต้อง ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร คุณก็สามารถทำกำไรได้อย่างแน่นอน

ข้อดี:

• กลยุทธ์การเก็งกำไรที่สร้างขึ้นอย่างถูกต้องไม่ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ของเหตุการณ์
• ใช้ประโยชน์จากความไม่มีประสิทธิภาพของตลาดที่มนุษย์ไม่สามารถประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว

ข้อเสีย:

• ยิ่งมีบอทเก็งกำไรมากขึ้น โอกาสก็จะปิดเร็วขึ้น — กำไรบางลงเรื่อยๆ
• กลยุทธ์การเก็งกำไรที่สมบูรณ์แบบบนกระดาษอาจล้มเหลวในการดำเนินการเนื่องจากสภาพคล่องไม่เพียงพอ

บอท AI

บอทประเภทนี้ไม่เพียงแค่ดูราคา แต่ยังสามารถประมาณความน่าจะเป็นจริงได้แม่นยำกว่าตลาด พวกมันจะบูรณาการและวิเคราะห์เบาะแสต่างๆ เช่น ประวัติราคา, ปริมาณการซื้อขาย, ข่าว, ข้อมูลบนเชน, พฤติกรรมวาฬ, และบางครั้งแม้กระทั่งวิเคราะห์อารมณ์ร่วมของโซเชียลมีเดีย

หากโมเดลตัดสินว่าตลาดกำหนดราคาที่ความน่าจะเป็น 40% แต่ความน่าจะเป็นจริงคือ 60% บอทจะซื้อต่ำและขายสูง ดำเนินการตลอด 24 ชั่วโมง

ข้อดี:

• บอท AI ที่ประสบความสำเร็จสามารถครอบคลุมหลายด้าน เช่น การเมือง, กีฬา, เศรษฐกิจมหภาค, โดยใช้โมเดลเดียวทำงานในหลายร้อยตลาด
• สามารถครอบคลุมแหล่งสัญญาณที่หลากหลาย: สถิติ, บนเชน, ข่าว, ตัวชี้วัดพฤติกรรม

ข้อเสีย:

• มีเกณฑ์ค่อนข้างสูง

คุณต้องมีท่อส่งข้อมูล, โครงสร้างพื้นฐาน, ทักษะการเรียนรู้ของเครื่อง, สัญชาตญาณทางการเงิน, กรอบความเสี่ยง, และยังต้องลงทุนทรัพยากรในการจัดเก็บข้อมูล, การประมวลผล, การฝึกโมเดลใหม่อย่างต่อเนื่อง, การตรวจสอบ, และการสร้างระบบการจัดการความเสี่ยงที่ไม่มีช่องโหว่ นี่ไม่ใช่งานอดิเรก นี่เทียบเท่ากับการก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพ

สแต็กเทคโนโลยี (บอททุกตัวต้องการ)

สิทธิ์การเข้าถึง Polymarket API: เอกสารทางการมีอินเทอร์เฟซข้อมูลเรียลไทม์และคำสั่งซื้อขายทั้งหมด หากไม่มีสิ่งนี้ก็ทำอะไรไม่ได้

กระเป๋าเงิน Polygon: การซื้อขายดำเนินการบน Polygon โดยใช้ USDC คุณต้องมีคีย์ส่วนตัวของกระเป๋าเงินที่สามารถลงนามธุรกรรมและจัดการยอดคงเหลือได้

การจัดเก็บข้อมูลประวัติ:

• บอทต้องการ: ราคา, ปริมาณการซื้อขาย, ส่วนต่างราคา, ข้อมูลเมตาของตลาด
• แนะนำ PostgreSQL หรือ SQL + การจัดเก็บแบบคอลัมน์ผสม สำหรับการรวมข้อมูลอย่างรวดเร็ว

Python + เครื่องมือทั่วไป: สำหรับการร้องขอ API, การประมวลผลแบบอะซิงโครนัส, การวิเคราะห์ข้อมูล, ไลบรารีการเรียนรู้ของเครื่อง

ทำไมบอทถึงชนะเสมอ?

• ความเร็ว: ไม่มีอารมณ์, ไม่ลังเล
• วินัย: ปฏิบัติตามกฎของระบบอย่างเคร่งครัด
• ขนาด: บอทตัวเดียวสามารถตรวจสอบตลาดนับพันแห่งได้ในขณะที่คุณนอนหลับ
• ความลึกของข้อมูล: รวมราคา, สมุดคำสั่งซื้อขาย, ข่าว, รูปแบบพฤติกรรม เป็นสัญญาณที่คุณไม่สามารถคำนวณด้วยตนเองได้

โดยสรุป การใช้บอทซื้อขายบน Polymarket เป็นเครื่องมืออันทรงพลังสำหรับการสร้างรายได้อัตโนมัติ — แต่มีเงื่อนไขว่า คุณต้องจัดการความเสี่ยงให้ดี